Home » » สาวเครียดบ่นอยากตาย แขวนคอตัวเอง-สามีช่วยทัน สุดท้ายแอบหนี-เดินลงแม่น้ำดับอนาถ!!

สาวเครียดบ่นอยากตาย แขวนคอตัวเอง-สามีช่วยทัน สุดท้ายแอบหนี-เดินลงแม่น้ำดับอนาถ!!

Written By Unknown on Wednesday, 24 February 2010 | 08:17


 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ก.พ. ร.ต.ท.จีรวัฒน์ ประเสริฐศิริกุล ร้อยเวร สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งว่า มีคนโดดน้ำตายที่สะพานข้ามแม่น้ำกวง บ้านแม่ร่องน้อย หมู่ที่ 11 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ตอนนี้มีชาวบ้านได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำแล้ว จึงขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุด้วย หลังรับแจ้งได้รายงานให้กับทางผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นได้ร่วมกับ พ.ต.อ.ผล ปวนเปี้ย ผกก.สภ.เมืองลำพูน พ.ต.ท.สัมพันธ์ จันทร์มั่งคั่ง รอง ผกก.พ.ต.ท.ดนัย ใจกล่ำ สวป.สภ.เมืองลำพูน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน และนายแพทย์เวรโรงพยาบาลลำพูน เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ


 เมื่อไปถึงพบศพของนางสาวสุกัญญา กาวิจา อายุ 31 ปี อยู่ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำกวง มีชาวบ้านจำนวนมาก มุงดูกันอยู่ สภาพผู้ตายสวมกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดสีขาว ตรวจดูตามร่างกายไม่มีการถูกทำร้ายแต่ประการใด

 จากการสอบสวนนายนราทร  อายุ 28 ปี สามีของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายทำงานอยู่ที่โรงงานชำแหละหมู ชื่อโรงงานหมูอินเตอร์ ตั้งอยู่ในตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน และเมื่อ 2-3 วัน ที่ผ่านมา ผู้ตายเกิดอาการเครียด พร้อมทั้งบ่นอยากตาย ตนจึงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ตายได้ใช้เชือกแขวนคอตัวเองมาแล้ว เมื่อสองวันก่อน แต่ตนเห็นพอดี ได้ช่วยไว้ได้ ต่อมาเมื่อช่วงตีสามที่ผ่านมา ผู้ตายได้แอบออกมาจากบ้าน ซึ่งตนนอนหลับอยู่ โดยผู้ตายได้ปั่นจักรยาน 2 ล้อออกจากบ้าน และได้นำจักรยาน 2 ล้อมาจอดบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้ตายได้เดินลงแม่น้ำกวง ซึ่งน้ำลึกประมาณ 3 เมตร โดยผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็น จึงจมลงไปในน้ำ กระทั่งสายวันนี้ ญาติพี่น้องและชาวบ้านได้ออกติดตามหาตัว จนมาพบเป็นศพดังกล่าว จึงได้แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทราบ


 หลังจากได้สอบสวนที่เกิดเหตุแล้วเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายคงเครียดเรื่องงาน และได้พยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลลำพูน จากนั้นจะได้มอบศพให้กับญาติไปประกอบพิธีตามประเพณีต่อไป

ที่มา: www.khaosod.co.th

0 comments:

Post a Comment