จากการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติ อ้างถูกแท็กซี่สุวรรณภูมิปล่อยทิ้งบนทางด่วน กรมการขนส่งฯ ยังไม่สามารถระบุได้ ชี้หากเป็นจริงโดนเพิกถอนใบอนุญาตแน่ ขณะที่ ทสภ.ตรวจกล้องวงจรปิด ไม่พบภาพนักท่องเที่ยวผู้เสียหายใช้บริการแท็กซี่ในสนามบิน...
นายสุชาติ กลิ่นสุวรรณ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงกรณีมีการโพสต์ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดนปล่อยทิ้งบนทางด่วน โดยอ้างว่าเป็นการกระทำของรถแท็กซี่ที่เรียกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ว่า ยังไม่สามารถระบุได้ โดยการโพสต์และส่งต่อภาพดังกล่าวเป็นการส่งภาพกันเองภายในกลุ่มเพื่อนว่า ได้มีการช่วยเหลือชาวต่างชาติเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้ประสบเหตุได้แจ้งเพิ่มว่าจากการประสานกับสถานีตำรวจสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าบริเวณที่คาดว่าเป็นจุดที่ชาวต่างชาติลงจากรถ เป็นจุดอับของกล้อง ประกอบกับด่านเก็บเงินอโศก 4 มีจำนวนช่องบริการมาก ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบหาแท็กซี่คันที่คาดว่ากระทำผิดได้
ทั้งนี้ แม้เบื้องต้นจากการประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วจะไม่สามารถสรุปสาเหตุ ชัดเจนได้ว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากกรณีแท็กซี่ทิ้งผู้โดยสารกลางทางหรือไม่ นั้น แต่สำหรับพฤติกรรมดังกล่าวหากตรวจพบว่ากระทำผิดจริงจะเข้าข่ายความผิดทำลายภาพลักษณ์ประเทศ กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการลงโทษสูงสุด คือ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที รวมถึงกรณีความผิดอื่นๆ เช่น การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร การไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการให้บริการไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้โดยสาร หรือพบเหตุในลักษณะเช่นนี้ สามารถร้องเรียนมายังกรมฯ ได้ทันที โดยระบุรายละเอียดรถแท็กซี่และผู้ขับรถแท็กซี่คันที่กระทำความผิด เช่น หมายเลขทะเบียนรถ สีรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับ ซึ่งจะทำให้กระบวนการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
ขณะที่นายเพ็ชร ชั้นเจริญ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งจุดให้บริการรถแท็กซี่ที่ชั้น 1 บริเวณประตู 4 และประตู 7 รวมทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ซึ่งมักมีผู้โดยสารไปใช้บริการรถแท็กซี่ที่มาจอดส่งผู้โดยสาร โดยเป็นรถแท็กซี่ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ ทสภ. และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของวันที่ 16 มีนาคม 2558 ช่วงระหว่าง 16.00-18.00 น. ไม่พบภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวใช้บริการรถแท็กซี่ที่ ทสภ. แต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทสภ.ยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวและติดตามหาตัวผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่กระทำความผิด แต่ขณะนี้ยังไม่พบเช่นกัน สำหรับเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการให้บริการแท็กซี่ของ ทสภ. และการท่องเที่ยวของประเทศอย่างมาก ดังนั้น หากตรวจสอบทราบภายหลังว่าเป็นผู้ขับขี่รถแท็กซี่ของ ทสภ. กระทำการดังกล่าวจริงจะลงโทษห้ามไม่ให้บริการรถแท็กซี่ที่ ทสภ.ตลอดไป และแจ้งกรมการขนส่งทางบกลงโทษตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป.
.............
ที่มา: thairath.co.th
0 comments:
Post a Comment