เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เครือข่ายสังคมโซเชียลมีเดีย แห่แชร์รูปภาพเด็กผู้หญิงรายหนึ่ง สวมเสื้อผ้าคล้ายผู้ป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง พร้อมอธิบายใต้รูปภาพว่า “ขออนุญาตแชร์ครับ เป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่ที่มีลูกน้อยในวัยกำลังซน น้องชื่อ น้องกรานต์ อายุประมาณ 3 ขวบ เพียงแค่หนังยางเส้นเดียว น้องต้องกลายเป็นเด็กที่มีปมไปตลอดชีวิต เหตุการณ์ น้องกรานต์ได้เอาหนังยางมารัดที่นิ้วของตัวเองตอนกลางคืน โดยที่พ่อแม่ก็ไม่ได้สังเกต จนถึงตอนเช้าเมื่อพ่อแม่น้องมาเห็น ก็พบว่านิ้วของน้องนั้นเป็นสีดำ และได้พาน้องไปหาหมอ หมอบอกว่าน้องกรานต์นั้นต้องตัดนิ้ว เพราะเลือดไม่สามารถไปล่อเลี้ยงนิ้วได้ ทำให้เนื้อตาย”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ปิติ ฉลองวิริยะเลิศ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ สถาบันกระดูกและข้อ โรงพยาบาลปิยะเวท อธิบายผ่าน “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า โดยปกติแล้วนิ้วมือจะมีเส้นเลือด 2 เส้นไปหล่อเลี้ยง หากนำหนังยางมารัดไว้เกิน 12 ชั่วโมง จะเกิดภาวะ “เนื้อเยื่อขาดเลือดเฉียบพลัน” ซึ่งเนื้อส่วนปลายจะชา และเซลล์จะค่อยๆ กลายเป็นสีดำ ออกซิเจนไม่เพียงพอ จนเน่าไปในที่สุด จึงต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด เพื่อตัดส่วนที่เน่าทิ้ง โดยจะมีอาการปวดในช่วงแรก และชาจนไม่รู้สึกที่บริเวณนั้นลักษณะเหมือนกับการถูกตัดนิ้วมือ
“ความจริงแล้ว ผิวหนังของเด็กทนทานได้มากกว่าผู้ใหญ่ และโอกาสการเชื่อมต่อของผิวหนังดีที่สุด แต่เด็กเล็กไม่มีวุฒิภาวะมากพอ ที่จะบอกว่าเจ็บมากแค่ไหน หรือเมื่อเจ็บก็นำออกไม่เป็น จนกินเวลาไปหลายชั่วโมง ตื่นมาอีกทีเซลล์ประสาทบริเวณปลายนิ้วก็ตายไปแล้ว ผู้ปกครองควรมั่นสังเกตให้ดีว่าลูกๆเล่นอะไรเสี่ยงๆหรือไม่”
ที่มา: http://dailynews.co.th
0 comments:
Post a Comment